การตั้งเป้าหมายคะแนน SAT ขึ้นอยู่กับคณะที่คุณต้องการสมัครและมหาวิทยาลัยที่คุณเล็งไว้ โดยทั่วไป การตั้งเป้าคะแนน SAT ที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการพิจารณาเข้าเรียนมากขึ้น ในกรณีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันสูง ควรตั้งเป้าคะแนนตามแนวทางต่อไปนี้:
1. คะแนน SAT สำหรับคณะต่าง ๆ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะบริหารธุรกิจ (BBA):
ควรตั้งเป้าคะแนน 1250-1400+ โดยเฉพาะ SAT Math ควรได้คะแนนสูง เพื่อแสดงให้เห็นถึงทักษะด้านการคำนวณและการวิเคราะห์ - คณะเศรษฐศาสตร์ (EBA):
ควรตั้งเป้าคะแนน 1250-1400+ โดยเน้น SAT Math อย่างน้อย 650-700 ขึ้นไป เนื่องจากเศรษฐศาสตร์เน้นคณิตศาสตร์เป็นหลัก - คณะวิศวกรรมศาสตร์ (ISE):
ควรตั้งเป้าคะแนน 1300-1450+ โดย SAT Math ควรอยู่ในช่วง 700 ขึ้นไป เพราะเป็นส่วนสำคัญสำหรับการเรียนวิศวกรรมศาสตร์ - คณะอักษรศาสตร์ (BALAC):
ควรตั้งเป้าคะแนน 1200-1350+ โดย ERW (Evidence-Based Reading and Writing) ควรได้คะแนนสูงกว่าคณิตศาสตร์ เพื่อแสดงทักษะด้านภาษาอังกฤษ - คณะนิเทศศาสตร์ (COM ARTS):
ควรตั้งเป้าคะแนน 1200-1350+ โดยเน้น ERW เป็นหลัก เพราะทักษะด้านการสื่อสารและการใช้ภาษาอังกฤษมีความสำคัญ - คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (INDA):
ควรตั้งเป้าคะแนน 1200-1350+ นอกจากคะแนน SAT แล้ว ควรเตรียมพอร์ตโฟลิโอและอาจมีการสัมภาษณ์
2. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat University)
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (BBA Program)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1250-1400+
- SAT Math: สำคัญมาก โดยคะแนน Math ควรอยู่ที่ 650 ขึ้นไป
คณะเศรษฐศาสตร์ (BE Program – Bachelor of Economics)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1200-1350+
- SAT Math: ควรมีคะแนน Math สูงกว่า 600-650 เนื่องจากวิชาเศรษฐศาสตร์ต้องการความสามารถทางคณิตศาสตร์
คณะรัฐศาสตร์ (British and American Studies – BAS)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1150-1300+
- เน้นคะแนน SAT ERW (Evidence-Based Reading and Writing) มากกว่า SAT Math โดยคะแนน ERW ควรอยู่ที่ 600 ขึ้นไป
คณะศิลปศาสตร์ (British and American Studies – BAS)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1100-1250+
- SAT ERW มีความสำคัญ เนื่องจากต้องใช้ทักษะด้านการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ
3. มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol University)
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (MUIC – Science and Technology)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1200-1350+
- SAT Math: ควรมีคะแนนสูงกว่า 600 เนื่องจากเน้นทักษะคณิตศาสตร์และการวิเคราะห์
คณะการจัดการ (MUIC – International Business)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1250-1400+
- คณะนี้เน้นคะแนน SAT Math และ ERW โดยรวมเพื่อแสดงทักษะด้านการคิดเชิงธุรกิจและการวิเคราะห์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Biomedical Science and Engineering – MUIC)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1300-1450+
- ควรได้คะแนน SAT Math ในระดับสูง (700 ขึ้นไป) เนื่องจากวิชานี้ต้องการทักษะคณิตศาสตร์ขั้นสูง
คณะแพทยศาสตร์ (MUIC – Pre-Medicine Program)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1300-1450+
- เน้นคะแนนรวมของ SAT โดยเฉพาะคะแนน Math ที่สูงสำหรับการสมัครเข้าเรียนแพทย์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (Kasetsart University) ก็มีการรับคะแนน SAT สำหรับโปรแกรมนานาชาติและบางคณะ โดยคะแนนที่แนะนำสำหรับการสมัครจะขึ้นอยู่กับแต่ละคณะ ดังนี้:
4. คะแนน SAT ที่แนะนำสำหรับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
1. คณะพาณิชยศาสตร์ (BBA Program)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1200-1350+
- SAT Math: ควรมีคะแนนสูงกว่า 600 เนื่องจากเป็นการประเมินทักษะทางธุรกิจและการวิเคราะห์ข้อมูล
2. คณะเศรษฐศาสตร์ (International Program)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1200-1350+
- SAT Math: ควรได้คะแนน Math สูงกว่า 600 เนื่องจากเศรษฐศาสตร์มีการวิเคราะห์ข้อมูลและตัวเลขเป็นหลัก
3. คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Engineering)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1300-1450+
- SAT Math: ควรมีคะแนน Math สูงกว่า 700 เนื่องจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ต้องการความสามารถในการคำนวณและวิเคราะห์ปัญหาทางเทคนิค
4. คณะวิทยาศาสตร์ (International Program)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1200-1350+
- SAT Math: ควรมีคะแนนสูงกว่า 600 โดยเฉพาะในสาขาวิทยาศาสตร์ที่มีการใช้งานคณิตศาสตร์อย่างมาก
5. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (Architecture)
- คะแนน SAT ที่แนะนำ: 1200-1350+
- นอกจาก SAT แล้ว ผู้สมัครอาจต้องส่งแฟ้มผลงาน (Portfolio) และมีการสอบสัมภาษณ์
สรุป:
คะแนน SAT ที่แนะนำสำหรับมหาวิทยาลัย ยิ่งเยอะยิ่งดี แตะอาจจะอยู่ระหว่าง 1300-1450+ ขึ้นอยู่กับคณะที่ต้องการสมัคร โดยคณะที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จะต้องการคะแนน SAT Math สูงกว่า 650-700 ขึ้นไป